เสริมจมูก
เสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง เทคนิคใหม่ ปลอดภัยกว่า
แก้ไขความเข้าใจกับศัลยกรรมจมูก พร้อมแนะนำเทคนิคใหม่ที่สามารถมีจมูกโด่งเด้ง สวยงาม และปลอดภัยกว่าทุกวิธีที่เคยมีมา...
หลายคนสนใจอยากเสริมจมูก เพิ่มความสวย ความหล่อให้ใบหน้า แต่ฟังจากคำบอกเล่าของเพื่อนๆ ที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว อาจยังไม่เข้าใจ ดังนั้น วันนี้เรามาสัมภาษณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมความงาม อย่าง คุณหมอยูมิ-พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์แห่ง Bangkok Beauty Clinic ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ความงามและแก้ไขโครงหน้า อันดับต้นๆ ของเมืองไทย เผยข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเสริมจมูกกันดีกว่า
สำหรับการเสริมจมูก ให้ดั้งดูโด่ง ปลายจมูกเป็นรูปชมพู่ หรือหยดน้ำที่สวยงาม มีด้วยกัน 3 วิธีหลักๆ คือ...
1.ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งมีความสะดวก เร็ว และง่าย เพราะไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน แต่ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก มีโอกาสที่จะแพ้ หรือโมเลกุลของฟิลเลอร์ อาจเข้าไปอุดเส้นเลือดจนทำให้เกิดอันตรายได้
2.ใส่ซิลิโคน วิธีนี้ได้รับความนิยมที่สุด เพราะอยู่ได้ถาวร ทำง่าย ภายในระยะเวลาไม่นาน การดูแลแผลหลังผ่าตัดก็ใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียว แต่ข้อเสียคือ กว่าซิลิโคนจะเป็นเนื้อเดียวกับจมูก ต้องใช้เวลานาน ประมาณ 3 เดือน โอกาสที่ซิลิโคนจะเอียง เบี้ยว ทะลุผิวหนังก็มี เนื่องจากซิลิโคนเป็นของแข็ง ผู้ที่เสริมจมูกด้วยวิธีนี้ หลังทำแล้ว มักจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน บางรายอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
3.ใช้ไขมันตัวเอง ถือเป็นวิธีใหม่ที่ประเทศเกาหลีใต้กำลังนิยม เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากทำแล้วแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาทะลุ ไม่รู้สึกหนักจมูก ปราศจากอาการแพ้ เพราะไขมันที่ใช้เสริมนั้นเป็นของตัวเอง ไม่มีสิ่งแปลกปลอมอื่นเสริมเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อยู่ได้นาน 2 ปีในการทำครั้งแรก โดยมักต้องทำประมาณ 3 ครั้ง จึงจะได้รูปจมูกสวยๆ อยู่คู่กับเราไปถาวร
ด้วยความที่เทคนิคการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง ยังเป็นเรื่องใหม่ในบ้านเรา คุณหมอยูมิจึงอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความกระจ่างว่า การใช้ไขมันเสริมจมูกนั้น จะใช้ไขมันที่มีชีวิต (Viable Fat) ซึ่งต้องดูดมาจากบริเวณที่เรียกว่า Donor Side หรือตำแหน่งที่จะนำไขมันมาใช้เสริมจมูก ส่วนใหญ่จะเลือกมาจากบริเวณท้อง หรือต้นขาด้านใน แต่จะนิยมใช้จากต้นขาด้านในมากกว่า เพราะลักษณะไขมันจะแน่น มีความยืดหยุ่น และเข้ากับเนื้อเยื่อบริเวณจมูกได้ดี
เทคนิคนี้ เดิมทีแพทย์ที่สหรัฐอเมริกาใช้กับการแก้ไขบริเวณที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น หน้ายุบเพราะอุบัติเหตุ ทว่าเกาหลีใต้ประยุกต์มาใช้ในด้านความงาม เพราะปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทย์จะทำการเสริมจมูกด้วยไขมันนั้น แพทย์จะใช้เครื่องมือดูดไขมันออกมาจากบริเวณ Donor Side แล้วนำไขมันที่ได้ไปกรอง คัดเอาเฉพาะเซลล์ไขมันดีๆ จากนั้นจะนำไปฉีด หรือผ่าเปิดเพื่อใส่ไขมันเข้าไปเสริมจมูก ซึ่งต้องทำภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว หรือ 1-2 ชั่วโมง มิเช่นนั้นไขมันจะตาย ถือว่าใช้งานไม่ได้
เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ไขมันที่เสริมเข้าไปนั้น จะยังไม่ใช่ไขมันจริงๆ ของตำแหน่งนั้นในทันที จนกว่าเส้นเลือดฝอยจะเข้ามาเลี้ยงไขมัน จึงถือว่าสำเร็จ ไขมันกลายเป็นไขมันจริงๆ ของตำแหน่งจมูก อย่างไรก็ตาม จะมีไขมันเพียงบางส่วนที่ฉีดเข้าไปแล้วไม่มีเส้นเลือดฝอยเข้าไปเลี้ยงก็จะฝ่อและยุบสลายไปภายในหนึ่งสัปดาห์
ทุกขั้นตอนในการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง จะใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง โดยแพทย์จะใช้ยาชาระหว่างทำ ที่สำคัญเข็มที่ใช้จะเป็นเข็มปลายทู้ ตามหลักการที่ถูกต้องปลอดภัย เพื่อไม่ให้เส้นเลือด เส้นประสาทเสียหาย โดยหลังทำเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับการเสริมจมูกจะรู้สึกปวด บริเวณที่เสริมจะบวม แต่จะหายเป็นปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ ได้จมูกรูปสวย เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกหนักหรือไม่รู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ที่จมูก
ภาพ/ข้อมูล : แพทย์หญิงธวลิดา เวชชวณิชย์ ศัลยแพทย์ความงามและแก้ไขโครงหน้า แพทย์ผิวหนัง เลเซอร์ศัลยกรรม แห่ง Bangkok Beauty Clinic