ร้อยไหม
ร้อยไหมดึงหน้า - โบท็อกซ์ - ฟิลเลอร์ 3 วิธีสวยด่วน?
มีหลายคนถามว่า อยากให้ผิวหน้าตึงขึ้นและดูสดใจ รอยเหี่ยวย่นลดลง ทำได้ไหม ถ้าไม่ผ่าตัด? หมอขอตอบเลยว่า ทำได้ ด้วย 3 วิธีรวมกัน ดังนี้
1.Filler (ฟิลเลอร์) เป็นการฉีดสารเติมเต็มผิวเข้าไปในผิวหนังบริเวณที่มีริ้วรอยเล็กๆ ริ้วรอยร่องลึก หรือบริเวณแผลเป็นหลุม เพื่อเติมเต็มร่องหรือหลุมให้ตื้นขึ้น เหมือนทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น ดูอ่อนวัยเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังใช้ในการเติมเต็มริมฝีปากให้เอิบอิ่ม และปั้นแต่งรูปร่างของริมฝีปากได้
บริเวณใดบ้างที่สามารถฉีด Filler คือร่องแก้ม, ริ้วรอยเล็กๆ รอบริมฝีปาก, บริเวณรอยขมวดคิ้ว, ร่องลึกที่หน้าผาก, แผลเป็นหลุม, ริมฝีปากทั้งบนและล่าง, รอยตีนกา, และใต้ตา
สารเติมเต็มที่ใช้ฉีด มีหลายชนิด แบ่งเป็น กลุ่มสารเติมเต็มตามธรรมชาติซึ่งอยู่ได้ชั่วคราว และสารเติมเต็มที่เป็นสิ่งแปลกปลอม เช่น silicon ซึ่งจะอยู่ได้ถาวรในผิวหนัง แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะสารเติมเต็มตามธรรมชาติที่ทางอย.อนุญาตให้ใช้ นั่นก็คือ "Hyaluronic acid" Restylane ซึ่งใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ต้องทดสอบก่อนฉีด เพราะเป็นน้ำตาลโมเลกุลซ้อน ผลที่ได้จากการฉีด Filler นั้น ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ เลือนหายไป รอยหลุมสิวเต็มหรือตื้นขึ้น ริมฝีปากเต็มอิ่มภายใน 5 นาทีหลังฉีด อยู่ได้นาน 1-2 ปี
การฉีด Filler ทำโดยการใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็ก ความเจ็บจึงมีไม่มากนัก แต่จำเป็นต้องทายาชาบนผิวก่อนทำการฉีด filler เพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นขณะทำการรักษา แต่บางบริเวณอาจต้องใช้ยาชาฉีดร่วมด้วย เช่น บริเวณรอยร่องแก้ม ส่วนผลข้างเคียงของการฉีด filler ที่พบได้คือหลังฉีดเสร็จบริเวณที่ฉีดจะมีอาการบวมตึงหรือแดงเล็กน้อยหรือรอยเขียวช้ำประมาณ 1-2 วัน บางรายอาจคลำพบก้อนเล็กๆบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปเองประมาณ 1-2 สัปดาห์
2. Botulinum toxin-A หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ BTA” หรือโบท็อกซ์ เป็นสารชีวภาพสกัดจากเชื้อ Clostridium Botulinum นำมาผ่านกระบวนการทำให้ บริสุทธิ์ ออกฤทธิ์คลาย กล้ามเนื้อ ในด้านความงาม นำมาใช้ในการลบรอยย่น ต่างๆ บนใบหน้า ให้ดูอ่อนวัยขึ้น เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, รอยตีนกา รอยย่นรอบดวงตา, รอบปาก, ร่องแก้ม, ลำคอ, ลบหน้าเหลี่ยม, และลดกลิ่นเต่า
ข้อดีของ Botulinum toxin-A สามารถใช้รักษา รอยย่นต่างๆ ที่เกิดจากการแสดง สีหน้า ได้ผลดี โดยไม่ต้อง ผ่าตัด ทำศัลยกรรม ใช้เวลาในการฉีดเพียง 5–10 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ ไม่ต้องพบกับข้อเสียจากการผ่าตัด เช่น บวม, ปวดแผล, มีแผลเป็น หรือ ข้อแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรง ใช้ยาปริมาณเพียงเล็กน้อยในการฉีด และใช้เข็มที่มีขนาดเล็กที่สุดในการฉีด ซึ่งจะรู้สึกเหมือนมดกัดเท่านั้น
3.ร้อยไหม ดึงหน้า จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่ง มีหลายวิธี แต่ปัจจุบันวิธีที่ได้ผลดีและปลอดภัย คือ Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V Lift เทคโนโลยี่ ยกกระชับหน้า ล่าสุดจากเกาหลี ด้วย การร้อยไหมละลาย จัดเป็นกรรมวิธีใหม่ที่นำมายกกระชับหน้าที่ได้ผลดี รวดเร็ว โดยใช้ไหมที่ผ่านรับรองจากอย.ของประเทศเกาหลีใต้และอย.ของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
สำหรับไหมที่ใช้เป็นไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็นไหมละลาย ที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับผิวนี้ จะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง
เมื่อไหมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบเล็กๆ ของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และ มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น
ผลการร้อยไหม ดึงหน้า ถือว่าลดเลือนริ้วรอยได้ชัดเจนทันที แก้ไขความหย่อนคล้อยบริเวณคอ ใบหน้า หางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา ที่โบทอกซ์หรือฟิลเลอร์ เลเซอร์ ไม่อาจจะแก้ไขได้หมด แถมอยู่ได้ยาวนานกว่า มากสูงสุดถึง 2 ปี
ได้ทราบอย่างนี้คงเป็นที่ชัดเจนกันแล้วว่า ไม่ต้องลงมีดผ่าตัด ก็แก้ไขปัญหาริ้วรอย คืนความงามให้ผิวได้.
แพทย์หญิงธวลิดา เวชชวณิชย์
ศัลยแพทย์ความงามและแก้ไขโครงหน้า ผิวหนัง เวชศาสตร์ชะลอวัย Bangkok Beauty Clinic
ใหม่ล่าสุด ร้อยไหม stem cell 4D
ใหม่ hot promotion โปรโมชั้นใหม่ประจำเดือน แห่งความรัก
ราคาปกติ ไหม stem cell 4 มิติ 20 เส้น 30,000 บาท ลด 80 % เหลือ 6,490 บาท
4D Ultra V-lift ร้อยไหม 4 มิติ คืนความอ่อนเยาว์ให้เซลล์ผิว ในทุกมิติที่คุณต้องการ
มิติที่ 1 ยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อยคล้อย ทำให้ภาพรวมหน้าดูตึงขึ้น
มิติที่ 2 ลดริ้วรอย ร่องลึกเฉพาะที่
มิติที่ 3 ปรับผิวให้เรียบเนียน เติมเต็มร่อง หลุมสิว รอยแผลเป็น
มิติที่ 4 ปรับผิวให้ ขาว สว่าง กระจ่างใสขึ้น
ด้วยคุณสมบัติของ stem cell ซึ่งเป็น เซลล์ต้นกำเนิด ทำให้สามารถเหนี่ยวนำเซลล์ที่อ่อนแอ ไม่แข็งแรง ฟื้นฟูกลับมาใหม่มีชิวิตได้อีกครั้ง บวกกับการร้อยไหมที่ยกกระชับใบหน้า ซึ่งเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้เพิ่มขึ้น และทิศทางการการร้อยไหมเอง จะทำให้เกิดการตึงตัวของเส้นไหม จึงทำให้ภาพรวมหน้าดูยกกระชับขึ้น ดังนั้นการร้อยไหม stem cell จึงเป็นมิติใหม่ในวงการผิวหนังความงาม ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของสาวๆหลายๆคนในทุกมิติที่ต้องการให้กลับมา สวยใส อ่อนกว่าวัยอีกครั้ง
ก่อนที่เราจะพูดถึงการร้อยไหมstem cell 4 มิติ หมอขออธิบายพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับ stem cell คร่าวๆก่อนนะคะ
Stem cell (เซลล์ต้นกำเนิด) คืออะไร
Stem cell หรือเซลล์ต้นกำเนิดทุกชนิดจะมีลักษณะพิเศษที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. สามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้เป็นเวลานาน
2. เป็นเซลล์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง
3. มีความสามารถในการเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้
หลักการทำงานของ Stem cell ก็คือ ในร่างกายมนุษย์จะมีเซลล์ทั้งสิ้น 100 ล้านล้านเซลล์ แบ่งเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ 220 ชนิด โดยจะมีทั้งที่ตายไปและสร้างขึ้นใหม่ตามหลักอนิจจังอยู่เสมอๆ ซึ่งปกติร่างกายคนเราก็มี ‘Stem cell’ หรือ ‘เซลล์ต้นกำเนิด’ อยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดพยาธิสภาพขึ้นก็จะทำให้สเต็มเซลล์ไม่สามารถทำงานได้
เมื่อในร่างกายมนุษย์มี สเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดที่พร้อมทำหน้าที่อย่างใด อย่างหนึ่งแต่ยังมีน้อยมาก จึงจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดเหล่านั้น เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเอาเซลล์อ่อนที่ถูกคัดเลือก พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนแล้วฉีดกลับเข้าไปยัง อวัยวะส่วนที่ต้องการรักษา เพื่อให้เห็นภาพ ขอยกตัวอย่างนะคะ เช่น เซลล์ไขกระดูกที่สร้างเม็ดเลือดแดง เกิดเป็นมะเร็งขึ้นมา เราก็มีการใช้ chemotherapy เพื่อฆ่าเซลล์ไขกระดูกที่เป็นมะเร็ง หลังจากนั้นมีการเอาเซลล์ไขกระดูกดีๆ ที่ไม่เป็นมะเร็ง ใส่เข้าไปแทนไขกระดูกเดิม ถ้าเซลล์เข้ากันได้กับร่างกาย การรักษาก็จะได้ผล ไม่มีการปฏิเสธเซลล์ใหม่ที่ใส่เข้าไป ก็ช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ เห็นประโยชน์ของ stem cell แล้วใช่ไหมคะ
การวิจัย Stem Cell
การวิจัยในปัจจุบันมีอยู่ 2แบบหลักๆด้วยกันคือ สเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ (Embryonic Stem Cell) และ สเต็มเซลล์เต็มวัย (Adult Stem Cell) ปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการวิจัย สเต็มเซลล์ ในส่วนเซลล์เต็มวัย (Adult stem cell) อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะส่วนที่ได้จากไขกระดูกและสายสะดือเด็กหลังคลอด ซึ่งสามารถนำมารักษาโรคต่างๆ อาทิ มะเร็งเม็ดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบตันเบาหวาน ธาลัสซีเมีย ปัจจุบันได้มีการรักษาไปแล้วประมาณ 1,000 ราย
ทางด้านความสวยงามเองก็มีการใช้ stem cell เช่นเดียวกัน โดยใช้หลักการเบื้องต้นใช้ stem cell ของตัวเองไปเพาะเลี้ยงภายนอกให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น แล้วนำกลับเข้ามาสู่ร่างกายโดยวิธีการฉีด ในงานวิจัยทางการแพทย์ stem cell มีการค้นพบครั้งสำคัญของ Prof. Alexis Carrel ผู้ได้รับรางวัลโนเบล และ Dr. Niehans นายแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสรรสร้างทฤษฎีที่เชื่อว่า “เซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cells” เมื่อสัมผัสกันเซลล์ผิวของมนุษย์จะสามารถเหนี่ยวนำเซลล์ผิวให้แปรสภาพกลับมาเป็นเซลล์ผิวที่อ่อนเยาว์ได้อีกครั้งด้วยการถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรมผ่านรหัสพันธุกรรมที่เรียกกว่า DNA
การร้อยไหมที่มี stem cell จะเป็นการช่วยผลักยา stem cell ให้เข้าสู่ผิวหนังด้วยเส้นไหม และ ด้วยตัวของเส้นไหมและทิศทางการร้อยของเส้นไหมเอง จะช่วยทำให้เกิดแรงตึงและการยกกระชับจากเส้นไหม ดังนั้น การร้อยไหม stem cell จึงเป็นคำตอบที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาในทุกๆด้าน เช่น ปัญหาเรื่องริ้วรอย ปัญหาความหย่อนคล้อย ปัญหาด้านขาวใส ปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็น เพราะ stem cell จะช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมกลับมามีชิวิตใหม่อีกครั้ง ขั้นตอนกระบวนการผลิตไหม stem cell 4 D จะทำแบบเทคนิคพิเศษ ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัยจาก US FDA มีงานวิจัยจาก Cryogenics Division, DNA Health Institute ประเทศสหรัฐอเมริกา คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพความปลอดภัยในการรักษาได้อย่างเต็มที่
บทความโดย
พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์
Bangkok Beauty Clinic
www.bangkokbeautyclinic.com
ร้อยไหม ดึงหน้า เพื่อผิวอ่อนเยาว์
ความสวยงามของผิวพรรณ ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ เป็นความใฝ่ฝันของทุกคนก็ว่าได้ เราทุกคนต้องการให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ เทคโนโลยี่ด้านความงาม จึงมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะนวัตกรรมชะลอวัย หนึ่งในนวัตกรรมเหล่านั้น ที่เราจะพุดถึง ก็คือ Ultra V lifting หรือ เทคนิคร้อยไหม ดึงหน้า
ก่อนที่จะรู้ว่า เทคนิคร้อยไหม ดึงหน้า คือ อะไร แล้วเขาทำกันอย่างไร เรามารู้ถึงวิวัฒนาการของวิธีการยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยกันก่อนนะคะ
กรรมวิธีในการยกกระชับ โดยเฉพาะใบหน้า ได้มีวิวัฒนาการกันมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆ ก็เป็นการผ่าตัดยกกระชับ ต่อมาก็มีการยกกระชับด้วยใช้คลื่น
การยกกระชับด้วยการใช้เส้นไหม ก็จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่งที่มีการทำมาหลายปี โดยเริ่มแรก อาจจะเป็นการยกกระชับด้วย ไหม Aptos Threads เป็นไหม ที่มีฟันปลาเล็กๆ อยู่ตลอดเส้นเพื่อดึงรั้งเนื้อใต้ผิวหนังให้ตึงขึ้น จัดเป็นกลุ่มเส้นไหมที่ไม่ละลาย เข็มที่ใช้มีขนาดใหญ่ ขณะทำจะเจ็บมาก มีรอยฟกช้ำมากหลังทำ และมักจะเกิดปัญหาในระยะยาวได้ เช่นนานๆ ไป พบแง่งไหมอาจจะโผล่ออกมาจากผิวหนังให้เห็นต้องไปผ่าออก หรือ เมื่อเงี่ยง หรือ ฟันปลาหลุดออกเมื่ออายุมากขึ้น ก็ทำให้ไหมไมได้ผลตามต้องการ
ต่อมาก็มี การยกกระชับด้วย ไหมทองคำ(Gold Thread) แม้จะมีข้อดีที่เกิดรอยช้ำหลังทำน้อยกว่า แต่มีข้อเสียที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และ ทำได้เฉพาะบางที่บางบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ แขนเท่านั้น หลังทำต้องเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ ที่ใบหน้า การร้อยเส้นไหมทองคำถ้าผิดพลาด ต้องผ่าตัดเอาไหมออก และอาจจะมีปัญหาสำหรับผู้ที่แพ้โลหะ เป็นต้น
นอกจากนี้ถือว่า เส้นไหมทั้งสองแบบ ยังไม่ผ่านอย.ของเมืองไทย จึงไม่ค่อยนิยมแพร่หลายมากนัก
Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V Lift เทคโนโลยี่ ยกกระชับหน้า ล่าสุดจากเกาหลี นวัตกรรมนี้เข้ามาใช้ในทางการแพทย์เพื่อความงาม เช่น ดึงหน้า ยกกระชับ ปรับหน้าเรียว ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ฟื้นฟูสภาพผิวให้เต่งตึง สดใสดูอ่อนกว่าวัย ทางเลือกใหม่ของผู้ที่ไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัดทำศัลยกรรม ด้วย การร้อยไหมละลาย จัดเป็นกรรมวิธีใหม่ที่นำมายกกระชับหน้าที่ได้ผลดี รวดเร็ว โดยใช้ไหมที่ผ่านรับรองจากอย.ของประเทศเกาหลีใต้และอย.ของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ไหมที่ใช้ เป็น ไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็น ไหมละลาย ที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับผิวนี้ จะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง
Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V Lift นอกจากจะเห็นผลทันทีหลังทำแล้ว เนื่องจาก ไหมละลาย มีกลไกการออกฤทธิ์หลังจาก การร้อยไหม เข้าสู่ชั้นผิวหนัง คือ ไหม จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันทีที่ทำ และยังพบผลดีต่อเนื่องได้อีก คือ ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และ มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหลังจากไหมสลายตัวหมด โครงสร้างคอลลาเจนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวค้ำจุนผิวดังโครงสร้างเส้นใย ทำให้กระชับและเต่งตึงต่อไป ผิวหน้าจะยิ่งดีขึ้น กระชับขึ้นเรื่อยๆ และได้ผลต่อเนื่องนานถึง 12-18 เดือน
ข้อดีของการทำ Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V Lift
นอกจากจะราคาถูกกว่าเครื่องมือบางอย่างแล้ว ยังเห็นผลได้ทันที ชัดเจนหลังทำ และ ทำเพียงครั้งเดียว ไม่เจ็บปวด
ขั้นตอนในการทำ หลังจากทายาชาบริเวณที่ต้องการยกกระชับ นาน 30-45 นาที หลังจากนั้น แพทย์จะนำ เส้นไหม ที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้ วิธีการร้อยเรียงเส้นไหม แพทย์จะพิจารณาตามโครงหน้าของคนไข้เป็นหลัก ในเวลาเพียง 20-40 นาที ซึ่งหลังทำคนไข้จะเห็นผลทันทีว่าผิวหน้ายกกระชับ พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวหน้าดูเนียบเรียบ กระจ่างใสมากขึ้นอีกด้วย >
Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V lift ทำแล้วดียังไง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ใต้ผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ผิวดูสุขภาพดีจากภายในและเปล่งประกายสู่ภายนอก รูขุมขนกระชับขึ้น ร่องแก้มตื้นขึ้น หน้าเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยคืนความอ่อนเยาว์ แค่เพียงครั้งแรกก็เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ชัดเจนทันที ยกกระชับผิวได้ตรงจุด หมดปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณคอ ใบหน้า หางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา ที่โบทอกซ์หรือฟิลเลอร์ เลเซอร์ ไม่อาจจะแก้ไขได้หมด
- ปรับหน้าให้ได้รูปเรียวสวยตามต้องการ เป็น V-Shape ,Jaw Line คมชัดขึ้น ลดไขมัน รอยย่นใต้คางได้ผลทันที
- ช่วยปรับรูปจมูกให้ได้รูปตามต้องการ เสริมการฉีดฟิลเลอร์ จึงทำให้ดูคมขึ้น และยังช่วยปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้น ในขณะที่ฟิลเลอร์มีข้อจำกัดในการปรับปลายจมูกให้เชิดตามต้องการ
- ช่วยยกหางตาตก ปรับแนวรูปคิ้ว ยกมุมปากตก เสริมคางให้แหลม
- ช่วยให้การไหลเวียนพลังงานและโลหิตดีขึ้น ผิวแลดูสดชื่น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แลดูขาวกระจ่างใส
- ช่วยยกกระชับต้นแขน สะโพก หน้าท้องที่หย่อนคล้อย ให้กระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนานเป็นปี
- อยู่ได้ยาวนานกว่าการทำ Botox ,Filler มากสูงสุดถึง 2 ปี
- หลังจากการทำไม่ต้องพักฟื้นแต่สามารถแต่งหน้า ไปเรียนหรือทำงานได้ตามปกติทันที
- เห็นผลคล้ายการทำผ่าตัดยกกระชับใบหน้า แต่ไม่เจ็บและไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด
- มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไหมสลายตัวหมด ไม่มีสารตกค้าง