การชะลอวัย ย้อนกลับไปเป็นหนุ่มสาวเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ปัจจุบันวิธีแก้ไขปัญหารอยเหี่ยวย่นมีหลายวิธี แต่วันนี้มีนวัตกรรมแนวเกาหลีที่สามารถย้อนวัยไปได้เป็นสิบๆ ปี โดยที่เห็นผลได้ชัดเจน และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอยูมิ-พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ แห่ง Bangkok Beauty Clinic ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ความงามและแก้ไขโครงหน้า อันดับต้นๆ ของเมืองไทย คุณหมอมีประสบการณ์ในการทำการผ่าตัดดึงหน้าให้กับคนไข้หลายคนทั้งในวงการ บันเทิงและเป็นที่รู้จักอย่างมากในหมู่คนไข้ที่ชื่นชอบด้านศัลยกรรมความงาม โดยได้อธิบายถึงวิธีการลดริ้วรอยในปัจจุบัน ซึ่งมีดังนี้
1. ใช้เลเซอร์ เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง เช่น การทำเลเซอร์เทอร์มาจ อัลเธอรา วิธีเหล่านี้ระหว่างทำจะรู้สึกเจ็บร้อนอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องลงมีดผ่าตัด ใช้เวลาในการทำไม่นาน ให้ผลตึงกระชับได้ราว 1-2 ปี แต่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นหลักแสน
2. การร้อยไหม โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นการเติมวัสดุหรือสารบางอย่างเข้าไปในผิวหนัง เพื่อทำหน้าที่หรือออกฤทธิ์ให้ผิวเต่งตึงกระชับ ขณะทำจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ต้องพักหน้า สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้เลยหลังทำ ผลการรักษาอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ก็จะมีอาการข้างเคียงที่มักจะเกิดขึ้นหลังทำ คือ ใบหน้าจะเกิดอาการหน้าบวมและช้ำหลังทำราว 3-4 วัน หรือที่แย่ไปกว่านั้น ร่างกายของบางคนอาจปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมจนเกิดอาการแพ้ หรือถ้าไม่ได้ผ่านการทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังจะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต อย่างเช่นกรณีพริตตี้สาวไปฉีดสารเสริมอึ๋มกับหมอเถื่อน สุดท้ายถึงขั้นเสียชีวิต
การผ่าตัดดึงหน้า แต่เดิมถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการดึงหน้า ทั้งใบหน้า เรียกว่า Total Face Lift ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีระบายน้ำเหลืองหลังผ่าตัด เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องพักฟื้นนานเป็นเดือนๆ และแผลผ่าตัดหลังทำก็ใหญ่ด้วยแต่วิวัฒนาการทางการแพทย์ไม่หยุดพัฒนา ส่งผลให้ปัจจุบันมีเทคนิคใหม่ เรียกว่า Mini Face Lift เป็นการผ่าตัดที่แผลเล็กๆ
เข้าใจคำว่า Mini Face Lift ให้ดีขึ้น
Mini Face Lift เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าอย่างหนึ่ง แต่เป็นการผ่าตัดที่แผลเล็กๆ ตามคำที่ใช้ว่า มินิ ก็หมายถึง เล็ก โดยแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณไรผม บ้างก็จะอยู่หลังใบหู หรือท้ายทอย และจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย ทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กมาก และถูกซ่อนอยู่ในบริเวณไรผมหรือตำแหน่งที่มองไม่เห็น คนไข้จึงไม่ต้องกังวลกับเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด และไม่ต้องทรมานกับการพักฟื้นนานเป็นเดือนๆ
การดึงหน้าด้วยวิธี Mini Face Lift กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในเกาหลีใต้และในเมืองไทย เพราะไม่มีการใส่สารแปลกปลอมเข้าไป หลังทำใบหน้าไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น วันรุ่งขึ้นสามารถไปทำงานได้ตามปกติ คนที่เลือกทำ Mini Face Lift ส่วนใหญ่มักเคยมีประสบการณ์ทำหน้าให้ตึงด้วยวิธีอื่นๆ มาแล้ว แต่จะพบว่าวิธีเหล่านั้นให้ผลอยู่ได้ราว 6 เดือนถึง 1 ปี ส่งผลให้ต้องทำซ้ำบ่อย เกิดค่าใช้จ่ายโดยรวมสูง ขณะที่ Mini Face Lift ทำหนึ่งครั้ง ให้ผลอยู่ได้นาน 5-10 ปี จนกระทั้งอายุมากขึ้นก็จะเป็นไปตามวัย ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมถูกกว่ามาก
การทำ Mini Face Lift ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง เพราะการทำผ่าตัดจะเปิดแผลในลักษณะรูเล็กๆ ขนาดเพียง 1-2 เซนติเมตร เพื่อดึงผิวหนังข้างในมาเย็บผูกปมซ่อนไว้ใต้ผิว จากนั้นจึงเย็บปิดแผลเล็กๆ นั้นอีกทีด้วยไหมละลาย
Mini Face Lift จะดึงบริเวณใดของใบหน้านั้น แพทย์จะประเมินตามปัญหาริ้วรอยที่แตกต่างกันของแต่ละคน เช่น กรณีที่คิ้วตกหรือหน้าส่วนบนหย่อน ก็จะดึงส่วนบน แต่ถ้าหน้าส่วนล่างหย่อน มีร่องแก้ม ร่องจมูก ก็จะดึงส่วนล่าง หรือบริเวณคอหย่อนก็ดึงเก็บตรงท้ายทอย
ก่อนทำ Mini Face Lift แพทย์จะใช้ยาชาฉีดเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด ผู้ป่วยจะรู้สึกตัว ไม่สลบ จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการผ่าตัด หลังผ่าตัดจะต้องดูแลตนเองเหมือนการผ่าตัดทั่วไป คือ ไม่ให้แผลถูกน้ำประมาณ 5-7 วันไม่แกะเกา ไม่ให้แผลถูกกระทบกระเทือน รับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม ยาแก้อักเสบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เมื่อผ่านไปสัก 1-2 สัปดาห์ อาการดีขึ้นเป็นปกติ
ทั้งนี้ การทำ Mini Face Lift ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐานถูกต้องเพื่อ การดึงหน้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สิ่งหนึ่งที่คนรักสวยรักงามไม่ปรารถนา คือ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและเหี่ยวย่นของผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เพราะนั่นเสมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกความมีอายุ เหตุนี้คนที่ยังทำใจยอมรับความร่วงโรยตามธรรมชาติประการนี้ไม่ได้ จึงพยายามหาวิธีแก้ไข ให้ใบหน้ากลับไปตึงกระชับอย่างเช่นที่เคยเป็น วิธีหนึ่งที่หลายคนนึกถึงก็คือศัลยกรรม
การทำใบหน้าให้ตึงกระชับในแง่ของศัลยกรรมนั้น ‘แพทย์หญิงธวลิดา เวชชวณิชย์’ หรือ หมอยูมิ ศัลยแพทย์ความงามและแก้ไขโครงหน้า แพทย์ผิวหนัง เลเซอร์ศัลยกรรม แห่งแบงค์คอค บิวตี้ คลินิก เผยว่า การแก้ไขปัญหารอยเหี่ยวย่นในปัจจุบันที่ได้รับความนิยม มีให้เลือกอยู่ 3 วิธีใหญ่ๆ โดยวิธีแรก เป็นการใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง เช่น การทำเลเซอร์เทอร์มาจ อัลเธอรา วิธีเหล่านี้แม้ระหว่างทำจะรู้สึกเจ็บ ร้อนอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องลงมีดผ่าตัด ใช้เวลาในการทำไม่นาน ให้ผลตึงกระชับได้ราว 1-2 ปี แต่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นหลักแสน
วิธีต่อมาคือการเติมวัสดุหรือสารบางอย่างเข้าไปในผิวหนังเพื่อทำหน้าที่หรือออกฤทธิ์ให้ผิวเต่งตึงกระชับ อย่าง เช่น ร้อยไหม, โบท็อกซ์, และฟิลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันยังนิยมกันอยู่มาก เนื่องจากทำแล้วเจ็บเล็กน้อย ไม่ต้องพักหน้า สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้เลยหลังทำ ผลการรักษาอยู่ได้นาน 6 เดือน-1 ปี แต่ก็จะมีอาการข้างเคียงที่มักจะเกิดขึ้นหลังทำ คือ ใบหน้าจะเกิดอาการหน้าบวมและช้ำ ไปประมาณ3-4 วันหลังทำ หรือที่แย่ไปกว่านั้นบางรายร่างกายอาจปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมจนเกิดอาการแพ้ หรือถ้ามิได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะเสี่ยงอันตราย เช่น กรณีพริตตี้สาวไปฉีดสารเสริมอึ๋มกับหมอเถื่อนจนกระทั่งเสียชีวิต
และวิธีสุดท้ายที่นิยมและเป็นเทรนด์ใหม่ คือ การผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งสมัยก่อนถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการดึงหน้า ทั้งใบหน้า หรือที่เรียกว่า โทเทิล เฟซ ลิฟต์ (Total Face Lift) ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีการระบายน้ำเหลืองหลังผ่าตัด เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องพักฟื้นนานเป็นเดือนๆ และแผลผ่าตัดหลังทำก็ใหญ่ด้วย แต่ปัจจุบันไม่ต้องกังวลกับดังกล่าวแล้ว เพราะมีเทคนิคใหม่ของเกาหลีเรียกว่า การทำ มินิ เฟซ ลิฟต์ (Mini Face Lift) ซึ่งเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าอย่างหนึ่ง แต่เป็นการผ่าตัดที่แผลเล็กๆ ตามคำที่ใช้ว่า มินิ ก็หมายถึง เล็ก โดยแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณไรผม บ้างก็จะอยู่หลังใบหู หรือท้ายทอย และจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย ทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กมากและถูกซ่อนอยู่ในบริเวณไรผมหรือตำแหน่งที่มองไม่ เห็น คนไข้จึงไม่ต้องกังวลกับเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด
การดึงหน้าด้วยวิธีมินิ เฟซ ลิฟต์ กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในเกาหลีใต้และในบ้านเรา เพราะไม่มีการใส่สารแปลกปลอมเข้าไป หลังทำใบหน้าไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น วันรุ่งขึ้นสามารถไปทำงานได้ตามปกติ สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย คนไข้ที่มาหาหมอส่วนใหญ่มักเคยทำหน้าให้ตึงด้วยวิธีอื่นๆ มาแล้ว หากแต่วิธีเหล่านั้นให้ผลอยู่ได้ราว 6 เดือน- 1ปี จึงต้องทำซ้ำบ่อย ทำให้มีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่สูง แต่มินิ เฟซ ลิฟต์ ทำแค่ครั้งเดียว ทำให้หน้าตึงอยู่ได้ราว 5-10 ปี จนกระทั้งอายุมากขึ้นก็จะเป็นไปตามวัย ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมถูกกว่ามาก
การทำมินิ เฟซ ลิฟต์ ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เนื่องจากการผ่าตัดจะเปิดแผลในลักษณะรูเล็กๆ ขนาดราว 1-2 เซนติเมตร เพื่อดึงผิวหนังข้างในมาเย็บผูกปมซ่อนไว้ใต้ผิว จากนั้นจึงจะเย็บปิดแผลเล็กๆ นั้นอีกทีด้วยไหมละลาย
ส่วนการจะดึงบริเวณใดของใบหน้า แพทย์ต้องประเมินตามปัญหาริ้วรอยที่แตกต่างกันของแต่ละคน เช่น กรณีที่คิ้วตกหรือหน้าส่วนบนหย่อน ก็จะดึงส่วนบน แต่ถ้าหน้าส่วนล่างหย่อน มีร่องแก้ม ร่องจมูก ก็จะดึงส่วนล่าง หรือบริเวณคอหย่อนก็ดึงเก็บตรงท้ายทอย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการทำ แพทย์จะใช้ยาชาฉีดเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด ผู้ป่วยจะรู้สึกตัว ไม่สลบ จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการผ่าตัด หลังผ่าตัดจะต้องดูแลตนเองเหมือนการผ่าตัดทั่วไป คือ ไม่ให้แผลถูกน้ำประมาณ 5-7 วันไม่แกะเกา ไม่ให้แผลถูกกระทบกระเทือน รับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม ยาแก้อักเสบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เมื่อผ่านไปสัก 1-2 สัปดาห์ อาการดีขึ้นเป็นปกติ การทำมินิ เฟซ ลิฟต์ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลหรือคลินิคที่ได้มาตรฐานถูกต้องเพื่อ การดึงหน้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามแพทย์หญิงธวลิดา ที่ www.bangkokbeautyclinic.com หรือผ่านอีเมล
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.